ในปัจจุบัน Super App กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของหลายคน ไม่ว่าจะเป็น Shopee, AliPay หรือ LINE ที่ไม่เพียงแต่เป็นแอปสำหรับการซื้อของหรือชำระเงิน แต่ยังรวมบริการต่างๆ ทั้งการเดินทาง การสั่งอาหาร และการเงินในที่เดียว ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวก
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ความนิยมของ Super App ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในประเทศที่อินเทอร์เน็ตเข้าถึงง่ายและประชากรกลุ่มชนชั้นกลางมีจำนวนมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Super App อย่าง Shopee, AliPay และ LINE ได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้อาจมีมูลค่าสูงถึง 2.11 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2568 และมีอัตราการเติบโตต่อปีแบบทบต้น (Compound Annual Growth Rate: CAPG) อยู่ที่ 22% ซึ่งการคาดการณ์นี้ก็สะท้อนถึงผลกระทบจากการเติบโตของ Super App ที่ช่วยขับเคลื่อนการเติบโตในตลาดนี้อย่างมีนัยสำคัญ
ความท้าทายของตลาดที่มี Super App ครองตลาด
แม้ Super App จะนำมาซึ่งคุณประโยชน์นานัปการในการช่วยอำนวยความสะดวกด้านการใช้บริการแอปพลิเคชันให้แก่ผู้บริโภค แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความนิยมของ Super App เองก็ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสตาร์ทอัพให้ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจประเภท FinTech หรือ ธุรกิจที่ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีในการให้บริการด้านการเงินและการลงทุน เนื่องจาก Super App มีการขยายขอบเขตการให้บริการของตนอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้สตาร์ทอัพที่มีบริการจำกัดอาจจะต้องหาทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุดก็คงหนีไม่พ้น Shopee แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ที่เริ่มต้นจากการเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ก่อนจะบูรณาการบริการด้านอื่น ๆ เข้ามาเพื่อให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่ครบวงจร พร้อมตอบสนองแทบทุกความต้องการของผู้บริโภค ตัวอย่างของบริการที่เพิ่มเข้ามา ได้แก่ บริการชำระเงินทางดิจิทัล (ShopeePay) บริการจัดส่งอาหาร (ShopeeFood) และบริการสินเชื่อเงินสดออนไลน์ (SEasyCash) และด้วยบริการที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ผู้บริโภคเช่นนี้เอง ที่ส่งผลให้ Shopee กลายเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยส่วนแบ่งตลาดอีคอมเมิร์ซกว่า 46.9% ในภูมิภาค
อีกหนึ่งตัวอย่างที่ชัดเจนไม่แพ้กันก็คือ LINE แพลตฟอร์มด้านการสื่อสารและการชำระเงินชื่อดัง ที่คนไทยส่วนมากน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี โดย LINE ขึ้นชื่อเรื่องของการรวบรวมข้อมูลของผู้บริโภคไว้อย่างมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นความชอบ พฤติกรรมการใช้จ่าย และการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของผู้บริโภค จึงส่งผลให้ LINE มีข้อมูลที่สามารถนำไปขัดเกลาหรือพัฒนาบริการของตนเองให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากยิ่งขึ้นไปอีก ต่างจากสตาร์ทอัพที่อาจไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานจำนวนมหาศาลได้
โอกาสของสตาร์ทอัพในการแข่งขันกับ Super App
อย่างไรก็ตาม ยังมีโอกาสสำหรับสตาร์ทอัพที่จะเข้าไปในตลาดเฉพาะ (Niche Market) ที่ Super App ยังไม่ได้ครอบคลุม เช่น การบริการการเงินสำหรับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการการจัดการเงินแบบเฉพาะ หรือบริการที่รองรับกลุ่มผู้ใช้ที่ยังไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้ (Underbanked) โดยการสร้างบริการที่มีความแตกต่างและเฉพาะตัว จะทำให้สตาร์ทอัพสามารถแข่งขันได้ในตลาดนี้
แม้การแข่งขันกับ Super App จะเป็นเรื่องท้าทาย แต่สตาร์ทอัพยังมีโอกาสในการแข่งขัน เนื่องจากจุดแข็งของสตาร์ทอัพคือ ความคล่องตัว และความสามารถในการสร้างนวัตกรรมอย่างรวดเร็ว การพัฒนาบริการที่มีเอกลักษณ์จะช่วยให้สตาร์ทอัพสามารถยืนหยัดในตลาด โดยไม่ตกเป็นเพียงส่วนหนึ่งในระบบนิเวศของ Super App และยังสามารถขับเคลื่อนตลาด FinTech ให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งสร้างทางเลือกใหม่ ๆ ให้กับผู้ใช้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ